“รุ่งอรุณแห่งความหวัง” ผลงานศิลปะพุทธศาสนานิยมที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยสุโขทัย

 “รุ่งอรุณแห่งความหวัง” ผลงานศิลปะพุทธศาสนานิยมที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยสุโขทัย

หากกล่าวถึงศิลปะไทยในยุคก่อนกรุงศรีอยุธยา ยากที่จะหาผลงานชิ้นไหนโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์มากเท่า “รุ่งอรุณแห่งความหวัง” ผลงานประติมากรรมหินทรายของ Epphraim ซึ่งสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 3 ในช่วงสมัยอาณาจักรสุโขทัย

“รุ่งอรุณแห่งความหวัง” เป็นผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวบ้านในยุคนั้นอย่างชัดเจน รูปแบบของประติมากรรมนี้เป็นแบบ “พุทธศาสนานิยม” ซึ่งมักจะเห็นได้ในงานศิลปะของสุโขทัย

รูปเคารพหินทรายของ Epphraim แสดงพระพุทธรูปที่ประทับอยู่ในท่านั่งสมาธิบนฐานบัวคู่ ประติมากรรมมีความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และมีความสมบูรณ์ทั้งในด้านโครงสร้างและรายละเอียด ตัวพระพุทธรูปถูกแกะสลักอย่างประณีต มีเส้นสายและอวัยวะที่สมส่วน

ศีรษะของพระพุทธรูปยิ้มเบาๆ ทำให้ดูสงบและเป็นมิตร ใบหน้าผุดผ่องด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน ลักษณะนี้บ่งบอกถึงความสุขุมเยือกเย็นและจิตใจที่สงบ ของ Epphraim

นอกจากนั้น ยังสามารถสังเกตเห็นรายละเอียดอื่นๆ ที่โดดเด่น เช่น

  • ประભมณฑล หรือวงแหวนเปลวไฟที่ปรากฎอยู่ด้านหลังพระพุทธรูป เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ
  • เครื่องอาภรณ์ ของพระพุทธรูป อาทิ โอรส (เสื้อคลุม) และนิคราช (กระสร้า) ซึ่งถูกแกะสลักอย่างประณีต บ่งบอกถึงความหรูหราและศักดิ์สิทธิ์
  • ฐานบัวคู่ ที่พระพุทธรูปประทับนั้น เป็นสัญลักษณ์ของการบรรลุธรรม

“รุ่งอรุณแห่งความหวัง” ไม่เพียงแต่เป็นผลงานศิลปะที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เพราะสามารถสะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และค่านิยมของชาวสุโขทัยในสมัยนั้นได้อย่างชัดเจน

รายละเอียด
ชื่อผลงาน
ศิลปิน
วัสดุ
ยุคสมัย
สถานที่
รายละเอียด

ความหมายและการตีความ

“รุ่งอรุณแห่งความหวัง” เป็นผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความหมายและสัญลักษณ์

  • ความหวัง: ชื่อของผลงาน “รุ่งอรุณแห่งความหวัง” สะท้อนถึงความเชื่อในพระพุทธศาสนาของชาวสุโขทัย ซึ่งถือว่าพระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ ความสงบ และความสุข

  • วิถีชีวิต: รายละเอียดต่างๆ ของประติมากรรม เช่น

    • ท่านั่งสมาธิ แสดงถึงความสงบและจิตใจที่มั่นคง
    • โอรส (เสื้อคลุม) และนิคราช (กระสร้า) ซึ่งถูกแกะสลักอย่างประณีต บ่งบอกถึงความหรูหราและศักดิ์สิทธิ์
  • ค่านิยม: การสร้างรูปเคารพพระพุทธรูปในท่านั่งสมาธิบนฐานบัวคู่เป็นการแสดงถึงความเคารพและความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา

สรุป

“รุ่งอรุณแห่งความหวัง” เป็นผลงานศิลปะที่ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความหมายและสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และสะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และค่านิยมของชาวสุโขทัยในสมัยนั้นได้อย่างชัดเจน